ฮือฮา! นพ.ธีระวัฒน์ ชี้ งานศึกษาเรียนรู้วิจัยเมืองนอก มีเซ็กซ์ 21 ครั้งต่อเดือน ปราศจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
วันที่ 13 ไม่.ย. นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคเกิดใหม่ ภาควิชาแพทยศาสตร์ จุฬาลงแขนณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก”ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha” บอกว่า ปั่มปั๊ม 21 ครั้งต่อเดือน ปราศจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
ชายพวกเราถึงอายุหนึ่งจะมีปัญหาเรื่อง “ฉี่” พูดอีกนัยหนึ่ง ยืนตั้งนานไม่ออกซักครั้ง ออกก็ไม่ค่อยจะพุ่ง เสร็จและจากนั้นก็ราวกับไม่เสร็จ มีปัญหาจนกระทั่งไม่ค่อยต้องการจะฉี่ ยอมอดน้ำเลยแผ่ขยายไปกระทั่งเลือดข้นเหนียวหนืด ไปมีปัญหาต่อไต ต่อหัวดวงใจ อัมพฤกษ์ต่อ
สำหรับผู้ชายเพศต้นสายปลายเหตุใหญ่สำคัญเป็น ต่อมลูกหมากโต และก็มีมากที่เป็นโรคมะเร็ง ถ้าหากยังไม่เป็นและก็ยังไม่ต้องการที่จะอยากผ่าตัด ควักต่อม ก็มียาซึ่งเดิมเป็นยาลดระดับความดัน แต่ว่าความที่ทำให้หูรูดสำหรับการฉี่บานได้ เลยเอามาใช้สำหรับในการนี้ แม้กระนั้นจึงควรระวังความดันตก หน้ามืด ยาจำพวกนี้ออกฤทธิ์ต้านทาน alpha receptor
ยาอีกกรุ๊ปทำให้ต่อมลูกหมากเล็กลง ผ่านแนวทางการยั้งฮอร์โมน DHT ที่มาจากฮอร์โมนเพศชาย (5-Alpha Reductase Inhibitor) ตัวอย่างเช่น ยา Finasteride (Proscar) Dutasteride (Avodart) แต่ว่าแถมผลกระทบเป็นลดอารมณ์ทางเพศ ไม่ค่อยแข็ง การขับเขยื้อนน้ำอสุจิ (ejaculation) ปรวนแปร แม้กระนั้นที่ต้องระมัดระวังเป็นหลักเป็นยากลุ่มข้างหลังนี้ทำให้การตรวจค้นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่ชื่อว่า PSA ได้ค่าน้อยลงจนกระทั่งตรวจไม่พบ เลยวางใจว่าไม่เป็นโรคมะเร็งทั้งที่เป็น
แถลงการณ์ในปี 2011 พบว่าหากแม้ยากลุ่มข้างหลังนี้จะลดการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้บ้าง แม้กระนั้นหากเป็นแล้วยากลุ่มนี้บางทีอาจกลับทำให้เป็นโรคมะเร็งแบบจำพวกที่มีความร้ายแรงแผ่ขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
​อาหารเสริมที่กล่าวถึงว่าทำให้ต่อมเล็กลงนาม Saw Palmetto สกัดจากผลของ Serenoa Repens พบว่าไม่มีความสามารถจริงและก็อาจจะเป็นผลให้การตรวจค่าโรคมะเร็ง PSA สำเร็จลบเลียนแบบ
ถึงช่วงนี้มาถึงคำโบราณที่กล่าวกันมาในกรุ๊ปเพศชายทั้งหลายแหล่ว่าวิถีทางสุขภาพ แล้วก็ต่อมลูกหมากกันโต กันโรคมะเร็งหมายถึงดำเนินการ “ล้างท่อเสมอๆ” (keep the pipes clean!)
แล้วก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการเล่าเรียนฮือฮาทั่วทั้งโลก นับตั้งแต่มีการเสนอผลงานในห้องประชุมรายปีของสัมพันธ์ระบบฟุตบาทเยี่ยวของอเมริกา แล้วก็เผยแพร่ในนิตยสาร European Urology (29 เดือนมีนาคม 2016)
​ผลวิจัย จากการต่อว่าดตามโดยภาควิชาเรียนรู้ทางระบาดวิทยาโรคมะเร็งที่บอสตัน ในกรุ๊ปพนักงานด้านการแพทย์ ปริมาณ 31,925 คน ตั้งแต่ปี 1992 จนกระทั่ง 2010 โดยที่ในปี 1992 อายุหลักเกณฑ์เฉลี่ยอยู่ราวๆที่ 59 ปี ในตอน 18 ปีของการต่อว่าดตามมี 3,839 รายกำเนิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และก็ 384 รายร้ายแรงถึงชีวิต ขั้นตอนสำหรับเพื่อการพินิจพิจารณาเจาะลึกตั้งแต่เริ่มในปี 1992 มีการให้รายงานจำนวนปริมาณของการขับเขยื้อนน้ำเชื้อ (แทนในที่นี้ด้วยปั่มปั๊ม) ในช่วงตั้งแต่อายุ 20-29, 30-39, 40-49 และก็ 50 เป็นต้นไป ดังนี้มีการพินิจพิจารณาของต้นเหตุอื่นๆที่อาจมีส่วนให้กำเนิดโรคมะเร็ง
ผลที่น่าระทึกใจเป็น การเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งจะต่ำลงถึงโดยประมาณ 20% หากมีอัตราการปั่มปั๊มเข้าขั้นอย่างต่ำ 21 ครั้งต่อเดือน เมื่อเทียบกับผู้มีดำเนินการ 4-7 ครั้งต่อเดือน
การลดการเสี่ยงของโรคมะเร็งจะเจอได้ใมกรุ๊ปที่มีปฎิบัติการถี่ทั้งยังทุก ช่วงอายุ เหตุผลที่ใช้อัตรา 4-7 ครั้งต่อเดือนเป็นบรรทัดฐานสำหรับในการเทียบ เพราะเหตุว่ามีน้อยมากที่ฝูงคนในการค้นคว้านี้ ปฏิบัติในตอน 0-3 ครั้งต่อเดือนก็เลยตัดทิ้งไป
สำหรับปั่มปั๊มน้อยกว่า 21 ครั้ง อย่าเพิ่งจะเศร้าใจ ถ้าเกิดอัตรา 8-12 ครั้งต่อเดือนในตอน 40-49 ปี จะมีการเสี่ยงต่ำลง 10% รวมทั้งถ้าเกิดอยู่ในอัตรา 13-20 ครั้งต่อเดือน ในช่วงอายุนี้จะมีการเสี่ยงลดน้อยลง 20% (มีความนัยสำคัญทางสถิติ P trend <.0001)
เมื่อมองลึกละเอียดลงของกรุ๊ปปั่มปั๊ม 21 ครั้ง พบว่ากลุ่มนี้กลับไม่ค่อยเป็นกรุ๊ปรักสุขภาพนัก รับประทานมาก ดื่มมาก ได้โอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสมาคมมากมาย แล้วก็ดูดบุหรี่มากมาย แม้กระนั้นกลุ่มนี้มิได้ตายเร็วขึ้น เพราะเหตุว่ามูลเหตุอื่นๆ
กลไกของการปกป้องโรคมะเร็งต่อม ยังไม่เป็นที่แจ่มชัด
ดังนี้เป็นไปได้ที่ต่อมลูกหมากสะสมพิษที่จะก่อโรคมะเร็งไว้ (prostate stagnation ) รวมทั้งการกำจัดชำระล้างโดยการขับเขยื้อนออกไปบางครั้งก็อาจจะลดการเสี่ยง แต่ว่าดังนี้บางทีอาจได้ผลสำเร็จอื่นๆจากการที่มีการขับหรือการออกกำลังปั่มปั๊มบางครั้งอาจจะเปลี่ยนแปลงภาวะสถานการณ์โอบล้อมในเยื่อต่อม ทั้งยังปฏิบัติงานอาจจะเป็นผลให้กำเนิดความหรรษาสุขอย่างกระทันหันในวินาทีนั้น ทำให้เกิดการสั่งงานผ่านสมองมายังระบบภูมิต้านทาน
จะอย่างไรก็ตาม 21 ครั้งต่อเดือนพอๆกับมากยิ่งกว่า 5 ครั้งต่ออาทิตย์ จัดเวลาให้ดีนะนะครับ บางทีก็อาจจะเสียชีวิตเสียก่อนกำเนิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก